วันนี้ 27 สิงหาคม 2566 เวลา 09.00 น. สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงมีพระบัญชา มอบให้ สมเด็จพระมหาธิราจารย์ ปฏิบัติหน้าที่แทน เป็นประธานในพิธีเปิดอาคารผู้ป่วยนอก "อาคารพัฒนาพลานามัย" ณ โรงพยาบาลด่านช้าง อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งอาคารผู้ป่วยนอกหลังดังกล่าวนี้ สมเด็จพระอรียวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ได้ทรงมีพระเมตตาประทานชื่อ โดยมี นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี หัวหน้าส่วนราชการ คณะแพทย์ พยาบาล ข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ และประชาชนชาวสุพรรณบุรี ร่วมพิธี

โรงพยาบาลด่านช้าง เริ่มก่อสร้าง ในปี พ.ศ. 2524 ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2525 โดยขณะนั้นเป็นโรงพยาบาลขนาด 10 เตียงหรือโรงพยาบาลชุมชนขนาดเล็ก ผู้อำนวยการโรงพยาบาลในขณะนั้น คือ นายแพทย์ละเอียด นาคใหม่

ต่อมาในปี พ.ศ. 2533 ได้รับการพิจารณาสนับสนุนงบประมาณเหลือจ่ายจาก ท่านบรรหาร ศิลปอาชา ในการก่อสร้างตึกผู้ป่วยขนาด 30 เตียง และได้รับการยกฐานะเป็นโรงพยาบาล ขนาด 30 เตียง แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อการให้บริการผู้ป่วย ที่มีจำนวนมากขึ้น

ในปี พ.ศ. 2535 ท่านบรรหาร ศิลปอาชา และคุณหญิงแจ่มใส ศิลปอาชา ได้กรุณาให้การสนับสนุน ด้วยเงินบริจาค เพื่อก่อสร้างอาคารหอผู้ป่วยพิเศษ จำนวน 20 ห้อง

ในปี พ.ศ. 2536 ได้รับการสนับสนุนงบประมาณก่อสร้างอาคารผู้ป่วยคลอด จำนวน 1 หลัง และ อาคารสนับสนุนอื่นๆ และได้รับการยกฐานะเป็นโรงพยาบาลขนาต 60 เตียง และจากนั้นได้รับงบประมาณ ในการก่อสร้างอาคารผู้ป่วยใน 4 ชั้น เพื่อแยกการให้บริการ

ในปี พ.ศ. 2549 ได้รับการยกฐานะเป็นโรงพยาบาลชุมชนขนาด 90 เตียง โดยได้รับการอนุมัติงบประมาณในการก่อสร้างอาคารอุบัติเหตุฉุกเฉิน เพื่อบริการผู้ป่วยอุบัติเหตุ ให้เกิดความรวดเร็วและคล่องตัวมากยิ่งขึ้น

ปัจจุบัน โรงพยาบาลด่านช้าง เป็นโรงพยาบาลชุมชนขนาดใหญ่ 90 เตียง โดยมี นายแพทย์เดซา พงษ์สุพรรณ ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาล และมีเจ้าหน้าที่รวมทั้งหมด 302 คน ประกอบด้วย ข้าราชการ, ลูกจ้างประจำ, ลูกจ้างชั่วคราว, พนักงานราซการ, และพนักงานกระทรวงสาธารณสุข

มีผู้ป่วยนอกมารับบริการ เฉลี่ยวันละ 400 ถึง 500 ราย ซึ่งผู้รับบริการมีทั้งภายในจังหวัดสุพรรณบุรี และอำเภอใกล้เคียง กอปรกับโรงพยาบาลด่านช้างอยู่ห่างจากโรงพยาบาลศูนย์เจ้าพระยายมราช ประมาณ 86 กิโลเมตร ทำให้ผู้ป่วยมีความจำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด ผู้ป่วยที่มีภาวการณ์เจ็บป่วยที่ซับซ้อนหรือผู้ป่วยวิกฤตต่าง ๆ ต้องใช้ระยะเวลาในการเดินทางและค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น การที่โรงพยาบาลจะสามารถรองรับและให้บริการผู้ป่วยเหล่านี้ใด้จำเป็นต้องมีการพัฒนาศักยภาพทั้งด้านบริการ ด้านอาคารสถานที่ และพร้อมกับการที่จะเป็นจุดรับรักษาเฉพาะทางหลายๆ ด้าน ให้กับโรงพยาบาลอำเภอ และจังหวัดใกล้เคียง เช่น อำเภอหนองหญ้าไซ อำเภอสามชุก จังหวัดกาญจนบุรี และจังหวัดอุทัยธานี เป็นต้น

เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2560 โรงพยาบาลด่านช้าง ได้รับงบประมาณเพื่อก่อสร้างอาคารผู้ป่วยนอก 4 ชั้น ตามแบบเลขที่ 8883 เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 87 ล้านบาท และปัจจุบันได้ชื่อว่าอาคารผู้ป่วยนอก "อาคารพัฒนาพลานามัย"

ดังนั้น เพื่อให้มีอาคารสถานที่ ให้บริการรักษาพยาบาลผู้ป่วย และประชาชนที่จำเป็นต้องรักษา อย่างมีคุณภาพมาตรฐาน เพื่อเสริมสร้างสุขภาพของประชาชนให้แข็งแรง ดำรงชีวิตอยู่ร่วมกับครอบครัว อย่างมีความสุข โรงพยาบาลด่านช้างจำเป็นต้องมีสถานที่ อาคาร ให้บุริการอย่างเพียงพอด้วยวัตถุประสงค์ ดังนี้

1.เพื่อให้มีอาคารบริการรักษาพยาบาลผู้ป่วยนอกเพียงพอ เพิ่มประสิทธิภาพมาตรฐานและศักยภาพในการดูแลสุขภาพประชาชนในอำเภอด่านช้าง และพื้นที่ใกล้เคียง

2.เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลในตัวจังหวัด

3.เพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวก มีความพึงพอใจในการรับบริการ