วันนี้ 12 มิถุนายน 2568 เวลา 14.00 น. ณ ห้องรอยัล จูบิลี่ อิมแพค เมืองทองธานี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดโครงการ "พลังสตรีเพื่อการพัฒนา เสริมสร้างโอกาส สร้างอนาคต" โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้กล่าวรายงาน ในการนี้นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้รายงานภาพรวมการดำเนินกิจการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี และก้าวต่อไปของกองทุนฯ โดยมีบุคคลสำคัญเข้าร่วมงานดังนี้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นางจิณณารัชช์ สัมพันธรัตน์ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นางอรจิรา ศิริมงคล ประธานชมรมแม่บ้านพัฒนาชุมชน ผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด และพัฒนาการจังหวัด 76 จังหวัด
ในการนี้จังหวัดสุพรรณบุรี นายพิริยะ ฉันทดิลก ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี พร้อมด้วย นางเอกหทัย พนมอุปถัมภ์ พัฒนาการจังหวัดสุพรรณบุรี นำผู้นำสตรีจากอำเภอศรีประจันต์และบางปลาม้ารวมกว่า 20 คนเข้าร่วมงานฯในวันนี้
นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ตนเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนที่ 2 ของประเทศไทย ที่มาสานต่อการพัฒนาต่อยอดกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีที่เกิดขึ้นโดย นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย เพราะเรามีความเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า ผู้หญิงไทยมีศักยภาพที่สูงมาก ๆ ถ้าได้รับโอกาส ศักยภาพเหล่านั้นจะถูกแสดงออกมา เพราะตนเองในฐานะผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเป็นลูกสาว เป็นน้องสาว และเป็นคุณแม่ แน่นอนว่า "ต้องพิสูจน์ตัวเอง" ที่ต้องยอมรับว่าไม่ใช่เรื่องที่ง่าย ตั้งแต่การเข้ามาทำงานในภาคเอกชนจนถึงภาครัฐ ก็มีความยากง่ายที่ต่างกัน การมีอายุน้อยก็เป็นเรื่องหนึ่ง การเป็นผู้หญิงก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งเช่นกันที่ตนคิดเสมอว่า จะทำอย่างไรให้นักการเมืองที่เป็นผู้หญิงถูกยอมรับในความคิดเห็นต่อทั่วโลกหรือแม้แต่ต่อในประเทศของเราก็ตาม เพราะยังมีคำพูดที่เหยียดเพศที่ไม่ใช่เพียงแค่ในประเทศไทย แต่มีอยู่ทั่วโลก เช่นกัน ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาในการปรับจูนความคิดว่า จริง ๆ แล้วทุกเพศที่เราเลือกที่จะเป็นควรได้รับการเคารพอย่างเท่าเทียมกัน ได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน อันเป็นสิ่งที่เราต้องช่วยกันพัฒนาต่อไปในอนาคต
"ตลอด 13 ปีที่ผ่านมา กองทุนฯ นี้ได้เปลี่ยนแปลงชีวิตผู้หญิงมากมาย ซึ่งทุกท่านในที่นี้มีศักยภาพไม่ธรรมดา เพราะมีศักยภาพเด่นชัดและสามารถหาทางพิสูจน์ตัวเองได้ว่าสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของตนเองและคนรอบข้างได้อย่างแท้จริง และยิ่งสำคัญไปกว่านั้น เพราะเราสามารถช่วยกันนำความคิดมาเปลี่ยนเป็นโครงการ แปลงสู่เงินลงทุน สร้างธุรกิจเติบโตจากศูนย์จนถึงทุกวันนี้ได้ ทุกท่านจึงต้องอย่าลืมหยุดพักและชื่นชมตนเองที่มาถึงจุดนี้ต้องผ่านอุปสรรคมากมาย แต่เราก็ผ่านมาได้ และขอให้คำยืนยันว่า กองทุนฯ นี้จะถูกสนับสนุนต่อไปให้กับน้อง ๆ ที่จะเข้ามาประกวดโมเดลเพื่อมีโอกาสสร้างอาชีพที่ตัวเองรักและชอบ และเปิดโอกาสเติมความฝันให้เป็นจริงได้ และแม้ว่าที่ผ่านมาจะมีความพยายามยุบกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี แต่ด้วยพลังของสตรีทุกคนทำให้กองทุนฯ นี้ยังคงอยู่ต่อและมีบทบาทกับสตรีไทยในยุคปัจจุบันและในยุคต่อไปด้วยพลังของสตรี รวมทั้งทำเทคโนโลยีดิจิทัล และ AI มาใช้ในการขับเคลื่อนกองทุนฯ เพื่อให้ง่ายต่อการติดต่อสื่อสาร โฆษณาผลิตภัณฑ์หรือแนะนำสินค้าให้เข้าถึงคนทุกกลุ่มหลากหลายมากขึ้น และหากโครงการใดเกิดประโยชน์กับคนหมู่มากจริง ๆ กองทุนฯ เอง ก็จะต้องมีรางวัลพิเศษสนับสนุน และเราจะทำให้โครงการฯ นี้ต้องอยู่อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน" น.ส.แพทองธาร กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัดและเจ้าหน้าที่กรมการพัฒนาชุมชนที่ทำงานอย่างมุ่งมั่นเคียงข้างผู้หญิงไทยทุกคน ตลอดจนทุกภาคส่วนที่ช่วยกันผลักดันทำให้กองทุนพัฒนาบทบาทสตรียังคงอยู่อย่างแข็งแรง ซึ่งกองทุนฯ นี้จะไม่ใช่แค่กองทุนของรัฐแต่เป็นพลังของประชาชนที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้จริง ๆ ดังคำกล่าวที่ว่า When Women Support Each Other, Incredible Things Happen เมื่อเรา support ซึ่งกันและกันเป็น Empower ซึ่งกันและกัน เมื่อผู้หญิงที่มีความมั่นใจ support ผู้หญิงอีกคนให้มีความมั่นใจ ให้กล้าทำ กล้าตามความฝัน กล้าไปตามสิ่งที่ตนเองวางแผนไว้ เพิ่มโอกาสให้กับตนเอง เพิ่มโอกาสให้กับคนในสังคม เมื่อนั้นพลังแบบนี้จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะนี่คือพลังสตรีไทย พลังแห่งความยั่งยืน
สำหรับโครงการ "พลังสตรีเพื่อการพัฒนา เสริมสร้างโอกาส สร้างอนาคต" มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นเวทีในการนำเสนอนโยบาย แนวทางการพัฒนา และเป้าหมายในการดำเนินงานของกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ทั้งในระยะสั้นและระยะยาวแก่สาธารณชนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ตลอดจนเสริมสร้างความเข้าใจในบทบาทและเป้าหมายของกองทุนฯ ให้เป็นที่รับรู้ในวงกว้าง นอกจากนี้ ยังมุ่งหวังให้เกิดการมีส่วนร่วมและการสนับสนุนจากทุกภาคส่วน รายการร่วมขับเคลื่อนภารกิจของกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม และก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อสตรีในชุมชนทั่วประเทศ "การจัดโครงการในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการกิจในการขับเคลื่อนประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 2 ของกระทรวงมหาดไทย คือ "การลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม สร้างความเข้มแข็งของชุมชน และพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก" ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ที่ให้ความสำคัญกับการเปิดโอกาสให้ประชาชนทุกกลุ่มได้เข้าถึงสวัสดิการของรัฐ และพัฒนาศักยภาพของตนได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ยังสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ ที่เน้นความเท่าเทียม ทั่วถึง และการเสริมสร้างศักยภาพของสตรีในทุกมิติ และมุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนผ่านการสร้างอาชีพและเพิ่มรายได้ การลดความเหลื่อมล้ำในพื้นที่เปราะบาง ยกระดับกลไกภาครัฐให้โปร่งใส มีประสิทธิภาพ และตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง โดยมี "พลังของสตรี" เป็นศูนย์กลางในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงสู่อนาคตที่มั่นคงและยั่งยืนของประเทศ"
ภาพถ่ายของบุคคลต่างๆ ที่อยู่ในภาพข่าวได้รับอนุญาตจากบุคคลดังกล่าวให้เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ได้
ท่านสามารถติดตามข่าว พช.สุพรรณบุรี ได้จาก https://web.facebook.com/SuphanburiCommunityDevelopment?_rdc=1&_rdr#
ภาพ กรมการพัฒนาชุมชน ข่าว สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดสุพรรณบุรี
#กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี #WorldSoilDay #วันดินโลก #UN #FAO #GlobalSoilPartnership #MOI #กระทรวงมหาดไทย #บำบัดทุกข์บำรุงสุข #SoilandWaterasourceoflife #SustainableSoilandWaterforbetterlife #ดินดีน้ำดีชีวีมีสุขอย่างยั่งยืน #SDGsforAll #ChangeforGood