ที่หมู่บ้านอนุรักษ์ควายไทย อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เดินหน้า Kickoff ส่งเสริมอาชีพเลี้ยงสัตว์เมืองสุพรรณ ลั่นเกษตรกรต้องมีกินมีใช้ ภายใน 4 เดือนช่วงหน้าแล้ง และกล่าวในโอกาสเป็นประธานชี้แจงเปิดโครงการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อการส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์ และกิจการที่เกี่ยวเนื่อง ภายใต้บันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างกรมปศุสัตว์กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร พร้อมด้วยนายภูสิต สมจิตต์ นายนพฤทธิ์ ศิริโกศล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี นายสุดสาคร ภัทรกุลนิษฐ์ อธิบดีกรมการข้าว นายสุรเดช สมิเปรม รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ นายเศรษฐเกียรติ กระจ่างวงษ์ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ ดร.จูอะดี พงศ์มณีรัตน์ เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ และเกษตรกรจำนวนกว่า 1,000 คนเข้าร่วม และได้กล่าวว่า ปัจจุบันภัยธรรมชาติเกิดขึ้นอย่างซ้ำซากในหลายพื้นที่ ทำให้เกษตรกรไม่สามารถทำการเกษตรได้ตามปกติ ผลผลิตทางการเกษตนได้รับความเสียหายและได้รับผลกระทบด้านราคาตกต่ำ เนื่องจากคุณภาพผลผลิตที่ไม่ได้มาตรฐาน ทำให้เกษตรกรมีรายได้ไม่คุ้มต่อการลงทุน มีรายได้ไม่เพียงพอต่อการยังชีพ อีกทั้งยังขาดโอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินทุน เพื่อใช้ในการฟื้นฟูหรือปรับเปลี่ยนอาชีพ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตระหนักถึงสภาพปัญหาที่เกิดขึ้น และหาแนวทางที่จะช่วยฟื้นฟูอาชีพแก่เกษตรกรที่ประสบปัญหาดังกล่าวข้างต้น จึงได้จัดทำโครงการส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์ ภายใต้ความร่วมมือระหว่าง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ คือ กรมปศุสัตว์ และกระทรวงการคลัง คือ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เพื่อบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว
นายประภัตร โพธสุธน กล่าวต่อไปว่า โครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มขีดความสามารถภาคปศุสัตว์ไทยฟื้นฟูอาชีพแก่เกษตรกร บรรเทาความเดือดร้อนเสียหายอันเนื่องมาจากภัยพิบัติ ภัยธรรมชาติ และผลกระทบจากราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำ พร้อมทั้งสนับสนุนการจัดการตลาดผลิตผลการเกษตรที่เป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์ และเพื่อเป็นการสร้างอาชีพทางเลือกใหม่ด้วยการปรับเปลี่ยนพื้นที่ไม่เหมาะสมมาเลี้ยงสัตว์จำหน่ายทั้งภายในและต่างประเทศ ได้แก่ โคเนื้อ กระบือ แพะ แกะ และไก่พื้นเมือง รวมถึงกิจการที่เกี่ยวเนื่อง “วันนี้ได้เชิญหน่วยงานทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องมาร่วมชี้แจงโครงการฯ ให้เกษตรกรได้รับทราบ เข้าใจ และสำรวจความต้องการของเกษตรกรที่จะเข้าร่วมโครงการต่างๆ ซึ่งในส่วนของจังหวัดสุพรรณบุรีนั้น สามารถส่งเสริมอาชีพได้หลากหลาย ทั้งด้านประมงเลี้ยงสัตว์น้ำเพื่อส่งออก เช่น ปลาสลิด กุ้ง ด้านพืช ปลูกพริก เมล่อน มะละกอ มะเขือเทศ และผักสลัด หรือด้านปศุสัตว์ ส่งเสริมเลี้ยงวัว แพะ แกะ หมู ไก่พื้นบ้าน และเป็ด ซึ่งโครงการต่างๆ นั้นหน่วยงานภาครัฐร่วมบูรณาการให้การสนับสนุน เช่น บ่อบาดาลเพื่อการเกษตร อาหารสำหรับเลี้ยงสัตว์ พร้อมทั้งมีเจ้าหน้าที่ให้ความรู้เพื่อเป็นพี่เลี้ยงให้กับเกษตรกร“
นายประภัตร โพธสุธน กล่าวว่าในส่วนของคุณสมบัติของผู้เข้าร่วมโครงการ ต้องเป็นสหกรณ์การเกษตร กลุ่มเกษตรกร หรือวิสาหกิจชุมชน มีความพร้อมในการจัดเตรียมโรงเรือนเลี้ยงสัตว์อย่างเหมาะสม จัดหาอาหารสัตว์ให้กินอย่างเพียงพอตลอดระยะเวลาการเลี้ยงเพื่อให้สัตว์มีการเจริญเติบโตเต็มที่อย่างมีศักยภาพ ผู้เข้าร่วมโครงการต้องดำเนินการจัดซื้อจัดหาพันธุ์สัตว์และปัจจัยการผลิตตามโครงการด้วยตนเอง
นอกจากนี้ ธ.ก.ส.สนับสนุนสินเชื่อไม่เกิน 1 ล้านบาท ดอกเบี้ย 100 บาท/ปี กลุ่มละไม่เกิน 10 ล้านบาท โดยเป็นไปตามเงื่อนไขของแต่ละโครงการ ส่วนเกษตรกรที่เป็นหนี้ NPL นั้นสามารถเข้าร่วมโครงการได้ โดยติดต่อที่ ธกส. เพื่อให้ความช่วยเหลือในการแบ่งผ่อนตามระเบียบต่อไป
วรเทพ บุญประเสริฐ ภาพ/ข่าว
สนง.ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุพรรณบุรี/ที่มา