• ปรับขนาด
    ตัวอักษร
อีเมล์ :
รหัสผ่าน :
ลืมรหัสผ่าน
บริการประชาชน
น้องเหน่อ
23.56
น้องเหน่อ
สวัสดีครับ...วันนี้มีอะไรให้ช่วยครับ ถามน้องเหน่อมาได้เลย จะรีบไปหาคำตอบให้ครับ
23.56
ข่าวประชาสัมพันธ์
สถาบันวิทยาศาสตร์ข้าวแห่งชาติ เตือนเกษตรกรเฝ้าระวังเพลี้ยกระโดดระบาด

จากกรณีที่สถาบันวิทยาศาสตร์ข้าวแห่งชาติพบการระบาดของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล วัย 2,3 ชนิดท้องแก่ปีกสั้นและชนิดท้องแก่ปีกยาว ที่ ต.แจงงาม อ.หนองหญ้าไซ และ ต.หนองผักนาก อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี ซึ่งพบว่ามีอยู่ในปริมาณที่สูง ดังนั้นเพื่อเป็นการเฝ้าระวังและป้องกันการระบาดของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล สถาบันวิทยาศาสตร์ข้าวแห่งชาติ จึงได้แนะนำวิธีการป้องกันกำจัดเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลในนาข้าวให้กับเกษตรกรได้รับทราบอย่างทั่วกัน

นายอภิชาต ลาวัณย์ประเสริฐ ผู้อำนวยการสถาบันวิทยาศาสตร์ข้าวแห่งชาติ เผยว่า ทางสถาบันได้ทำการลงพื้นที่สำรวจแปลงเกษตรกร ในพันธุ์ข้าวปทุมธานี 1 ที่ต.แจงงาม อ.หนองหญ้าไซ จ.สุพรรณบุรี พบว่ามีการระบาดของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลซึ่งอยู่ในช่วงตัวเต็มวัย โดยเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลตัวเต็มวัยที่มีปีกนี้ สามารถบินอพยพได้เป็นระยะทางไกล เข้าทำลายต้นข้าวได้เป็นบริเวณกว้าง ส่งผลกระทบต่อผลผลิตข้าวเป็นอย่างมาก เกษตรกรที่ปลูกข้าวควรสำรวจแปลงนาอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่องพร้อมปฏิบัติตามคำแนะนำในการป้องกันกำจัดเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล เพื่อเป็นการเฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์การระบาด ป้องกันการสูญเสียจากการเข้าทำลายของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ดังนั้นจึงควรปฏิบัติตามคำแนะนำของกรมการข้าว ดังนี้

  1. ให้เกษตรกรใช้อุปกรณ์ดักจับแมลงที่มาเล่นแสงไฟ เพื่อลดจำนวนประชากรเพลี้ยกระโดดที่วางไข่ในข้าวที่ปลูกใหม่
  2. ประสานกับเกษตรในพื้นที่ หรือสำนักส่งเสริมการผลิตข้าว เรื่องการใช้กับดักแสงไฟ (Giant light trap) ดูดแมลงบริเวณแปลงนาที่เกิดอาการไหม้ เพื่อล่อให้แมลงออกจากแปลงนาก่อนการเก็บเกี่ยวเพื่อป้องกันแมลงอพยพออกไปแปลงอื่น ๆ
  3. พื้นที่ปลูกข้าวพันธุ์ปทุมธานี 1, กข43 และขาวดอกมะลิ 105 ซึ่งเป็นพันธุ์อ่อนแอ ให้เฝ้าระวังเป็นพิเศษ
  4. แหล่งที่มีการระบาด และควบคุมระดับน้ำในนาได้ หลังปักดำหรือหว่าน 2-3 สัปดาห์ จนถึงระยะตั้งท้อง ควบคุมน้ำในแปลงนาให้พอดดินเปียก หรือมีน้ำเรี่ยผิวดินนาน 7-10 วัน แล้วปล่อยขังทิ้งไว้ให้แห้งเองสลับกัน จะช่วยลดการระบาดของเพลี้ยได้
  5. เมื่อตรวจพบสัดส่วนของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลต่อมวนเขียวดูดไข่ระหว่าง 6:1 – 8:1 ไม่ควรใช้สารเคมี
  • ข้าวอายุน้อยกว่า 40 วัน ใช้สารบูโพรเฟซิน หรือบูโพรเฟซิน + ไอโซโปรคาร์บ หรืออีโทเฟนพรอกซ์
  • ข้าวระยะแตกกอ (40 - 60 วัน) ใช้สารอีโทเฟนพรอกซ์ หรือบูโพรเฟซิน หรือไดโนทีฟูแรน
  • ข้าวตั้งท้องถึงออกรวง (61 – 80 วัน) ใช้สารไพมีโทรซิน หรือไดโนทีฟูแรน หรือคาร์โบซัลแฟน

ทั้งนี้นายอภิชาต ยังกล่าวอีกว่า อยากให้เกษตรกรปฏิบัติตามคำแนะนำดังกล่าว เพื่อเป็นการป้องกันการสูญเสียจากการเข้าทำลายของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล และการแพร่ระบาดของเพลี้ยกระโดด หรือหากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่สถาบันวิทยาศาสตร์ข้าวแห่งชาติ โทร. 035 – 555340 หรือที่สำนักงานเกษตรอำเภอในพื้นที่

นิตยา ร่มโพธิ์ชี/ข่าว

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุพรรณบุรี/ที่มา

ข่าวประชาสัมพันธ์อื่นๆ