นายนิมิต วันไชยธนวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี เปิดเผยว่า ด้วยขณะนี้ได้เกิดโรคไวรัสใบด่างมันสำปะหลังในพื้นที่จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และบางพื้นที่ของจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งโรคไวรัสใบด่างมันสำปะหลังเป็นโรคร้ายแรง หากเกิดขึ้นจะสร้างความเสียหายต่ออุตสาหกรรมมันสำปะหลังทั้งระบบ จะทำลายผลผลิตมันสำปะหลังมากถึงร้อยละ 80-100 ส่งผลให้เกษตรกรมีต้นทุนเพิ่มขึ้น ทั้งจากการใช้ยากำจัดแมลงหวี่ขาวที่เป็นพาหนะนำโรคการเพาะปลูกทดแทนมันสำปะหลังที่ต้องถอนทำลายทิ้ง รวมทั้งเมื่อทำลายแล้วจะต้องพักดินเพื่อให้เชื้อหมดกว่าจะปลูกใหม่ได้ เสียโอกาสในการขยายผลผลิตและขาดรายได้ใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน สำหรับภาคอุตสาหกรรมผู้ประกอบการจะเกิดการขาดแคลนวัตถุดิบในอุตสาหกรรมทั้งมันเส้น แป้งมันสำปะหลัง เอทานอล และอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เกิดการแข่งขันด้านราคา ส่งผลต่อต้นทุนการผลิตในอุตสาหกรรมต่อเนื่องและกระทบต่อความสามารถในการแข่งขัน อาจทำให้สูญเสียตลาดคู่ค้าสำคัญ รวมทั้งส่วนแบ่งตลาดลดลง
เพื่อเป็นการป้องกันและหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโรคไวรัสใบด่างมันสำปะหลังมิให้กระจายเข้ามาในพื้นที่ปลูกมันสำปะหลังของเกษตรกร จึงขอประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกร และผู้ประกอบการมันสำปะหลังระมัดระวังและเพิ่มความเข้มงวดรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกร การนำต้นพันธุ์ ท่อนพันธุ์มันสำปะหลัง เข้ามาทำการเพาะปลูกในจังหวัดสุพรรณบุรี และหากพบการนำเข้าต้นพันธุ์ ท่อนพันธุ์มันสำปะหลัง ที่เป็นโรคหรือติดเชื้อโรคไวรัสใบด่างมันสำปะหลังมาเพาะปลูกในพื้นที่ หรือแปลงที่เพาะปลูกเกิดการระบาด ขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่เกษตรอำเภอในพื้นที่ หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดสุพรรณบุรี โทรศัทพ์หมายเลข 0-3555-5519 เพื่อดำเนินการออกประกาศกำหนดมาตรการให้เหมาะสมกับสถานการณ์ต่อไป
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุพรรณบุรี/ที่มา